วันนี้ (31 สิงหาคม 2558) เวลา 12.39 น. เสียงร้องสุดเสียงแสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างแรงดังลั่นอยู่ข้างกุฏิ  เมื่อรีบเปิดผ้าม่าน (ประตู) ออกไปดูจึงพบกับชีวิตหนึ่งที่ขณะนั้นไม่มีสติแล้ว เพราะความกลัวตายอย่างสุดขีดนั่นเอง  เมื่อดูอีกครั้งจึงพบว่ามีใส้ส่วนหนึ่งทะลุออกมานอกท้อง เพราะความแหลมคมของอาวุธจากศัตรูผู้ไร้ความปราณี  ต่อมาจึงได้ติดต่อรถพยาบาล และนำร่างนั้นเข้ารับการรักษาโดยด่วน หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาล คุณหมอได้บอกถึงอาการและการรักษาว่า "พระอาจารย์คะน้องแมวต้องเข้าห้องผ่าตัดโดยด่วน และเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาได้" จึงได้ตอบคุณหมอไปว่า (อาจารย์มีความปรารถนาต้องการให้แผลของน้องแมวหาย และมีชีวิตอยู่ต่อไป ให้คุณหมอช่วยหาวิธีเถิด) แล้วคุณหมอจากโรงพยาบาลสัตว์ก็วางสายไป

                  หากออกไปช่วยไม่ทัน เชื่อว่าคงหมดลมสิ้นชีวิตคาที่อยู่ที่เกิดเหตุแน่นอน การให้ชีวิตด้วยความบริสุทธิ์เป็นสิ่งประเสริฐ เป็นบุญอย่างยิ่ง  แต่ ก็แปลก การจะช่วยชีวิตของสัตว์ที่บาดเจ็บอย่างยิ่ง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อช่วยเต็มที่แล้วจะมีชีวิตรอดหรือไม่? ทำไมจึงต้องมีค่ารักษาพยาบาลก่อน  หรือยุคปัจจุบันนี้ ชีวิตถูกตีค่าเป็นเงินแล้ว ก็ได้แต่หวัง หวังว่าน้องแมว (เรียกตามคุณหมอ) จะมีชีวิตรอดกลับมา และใช้ชีวิตอยู่บ้านเกิด (บนหลังคากุฏิ) อยู่ครบพร้อมหน้าของครอบครัวซึ่งประกอบด้วย คุณแม่, คุณยาย, น้าสาว, พี่, น้องฯ, และหลวงตาไดอารี่

                     ปัจจุบันมีแมวอยู่ 7 ชีวิตด้วนกัน หนึ่งชีวิตขณะนี้ คุณหมอนำเข้าห้อง ไอซียู ซึ่งต้องฉีดยาสลบก่อน จึงจะผ่าตัดได้   ทุกชีวิต (ยกเว้นคุณยายแมว) เกิดที่กุฏิหลังนี้ และเจริญเติบโตอยู่ในอาณาเขตบ้านของเขา  แต่ก็ยังมีอยู่ 3 ตัว เมื่อเจริญวัยแตกเนื้อสาวแล้ว แต่งงาน ตั้งท้องแล้ว เห็นว่าอยู่บ้านหลังนี้มีสมาชิกอยู่จำนวนมาก อาหารขาดแคลน จึงได้อุ้มท้องไปคลอดและตั้งรกรากอยู่หมู่บ้านอื่น

คุณแม่ของน้องแมว และน้าสาวน้าสาวขณะหลับอย่างมีความสุขคืนนี้นอนหลับทั้งครอบครัว
ลูกน้อยกำลังดูดนมคุณแม่หลานฯ ขอรับไออุ่นจากคุณยายความรักของยาย กับหลานฯ
อรุณสวัสดิ์ สวัสดียามเช้าเล่นสนุกสนาน ที่ลานหน้าบ้านดื่มนม เพื่อจะได้มีนมให้ลูกหลานกิน
เปิดดนตรีกล่อมเด็ก แมวฟังจนหลับยาย,แม่,ลูกๆสวัสดียามเช้า ได้เวลาเล่นอีกแล้ว
เพราะเขี้ยวอันแหลมคมของสุนัขใจร้ายแท้ฯ

รอฟังผลการผ่าตัดของน้องแมว เช้าวันพรุ่งนี้ (1 กันยายน 2558)

            เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ส่งน้องแมวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ค่าผ่าตัดรักษาพยาบาลเคยคิดว่า จะขอให้คุณหมอร่วมทำบุญด้วย และอาจจะขอบิณฑบาตรค่ารักษา  ต่อมาคุณสุภาพร (อำไพ) ได้ทราบข่าวจากเว็บไซต์ ได้ติดต่อเพื่อจะโอนเงินเป็นค่าผ่าตัดรักษาพยาบาลของน้องแมว  จึงใช้โอกาสนี้บอกหมายเลขธนาคาร เพื่อให้ผู้มีใจรักสัตว์ มีความปรารถนาอยากมีโอกาสได้ช่วยชีวิตสัตว์ตามกำลัง (ศรัทธา) ที่มี      นิทานเรื่องราชสีห์กับหนู

ความคืบหน้าอาการน้องแมว วันนี้ (อังคารที่ 1 กันยายน 2558)

            เวลา 09.54 น.   คุณสุภาพร (อำไพ) ได้โอนค่าผ่าตัด, รักษาพยาบาล, ช่วยชีวิตน้องแมวครั้งนี้ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน)

 

           เวลา 12.02 น.  คุณหมอจากโรงพยาบาล แจ้งมาว่า "ตอนนี้น้องยังตัวเย็นมาก ต้องกกไฟช่วย อาการยังไม่ดีค่ะ รอดูอาการกันต่อไป"

 

           เวลา 17.18 น.  คุณหมอจากโรงพยาบาล แจ้งมาว่า "อาการยังทรงตัวอยู่ครับ ตัวยังเย็นอยู่"

ความคืบหน้าอาการน้องแมว วันนี้ (พุธที่ 2 กันยายน 2558)

            เวลา 07.20 น.   ติดต่อไปยังคุณหมอ

 
            เวลา 13.11 น.   คุณหมอแจ้งมาบอกน้องแมวเอ๋ย บุญรักษาเจ้านะ

           เวลา 15.54 น.  ไปเยี่ยมน้องแมว ที่โรงพยาบาล

และในที่สุด "น้องชิงดำ" ก็สิ้นลมอย่างสงบ  เวลา 17.21 น.

"น้องชิงดำ" ได้สิ้นลมแล้วค่าผ่าตัด - รักษา - นอนโรงพยาบาล"ใบรับรองแพทย์" ของน้องชิงดำ

                     เช้าวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558) เป็นวันแรกของการดำเนินการ กับร่างอันไร้วิญญาณของ "น้องชิงดำ" ที่สิ้นลมเมื่อเย็นวานนี้  หลังจากนำศพกลับมาถึงบ้านเกิด(วัด)แล้ว  ได้ห่อและนำศพใส่โลง ตั้งใว้  ณ ศาลาเอนกประสงค์ ที่เมื่อคืนใช้เป็นศาลาพักศพชั่วคราว เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น (คือวันนี้) ก็จะดำเนินการทำพิธีฝังศพต่อไป

"น้องชิงดำ" ณ ศาลาเอนกประสงค์"น้องชิงดำ" อยู่ในโลง (กล่อง)"น้องชิงดำ" กับผ้าเตรียมห่อศพ

เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ศาลาเอนกประสงค์เริ่มสร้าง "สุสานน้องชิงดำ"สุสาน "น้องชิงดำ" บ่ายวันที่ 3 ก.ย.
น้องชิงดำอยู่ในโลง (กล่อง)น้องชิงดำอยู่ในสุสานแล้ว"น้องชิงดำ" มีเพื่อนแล้ว  เสร็จ 65%

              การสร้างสุสาน "น้องชิงดำ" เริ่มดำเนินมาตั้งแต่เช้าวันที่ 3 กันยายน จนถึงเย็นวันนี้ (วันที่ 4 กันยายน) เสร็จไปแล้ว 65% โดยสถาปนึก คือหลวงตา... หลังจากน้องชิงดำจากไปแล้ว บรรดาญาติฯทั้งหลายของน้องเค้า มีความเป็นอยู่ ที่เรียกได้ว่า "อยู่ดีกินดี" ต่างกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนในปัจจุบันนี้ มีชาวบ้านมาเก็บเห็ดกันมาก และก็มีสุนัขติดตามมากับเจ้าของด้วย ความเป็นอยู่ของเค้าไม่ปลอดภัย (เช่นน้องชิงดำ) หลวงตาจึงอนุญาตให้พวกเค้าทั้งหลายสามารถเข้ามาอาศัยหลบภัยอยู่ในโรงเห็ดกับหลวงตาได้ และการกินก็ได้รับอานิสงส์จากน้องชิงดำที่มี "ผู้ใจบุญ" เป็นเจ้าภาพค่ารักษาพยาบาล

ทำสมาธิ เจริญภาวนา ทำบุญอุทิศที่พักหลับนอน ของญาติฯน้องชิงดำภาพเช้าวันที่ 10 กันยายน 2558

              เช้าวันนี้ (10 กันยายน 2558) การทำบุญอุทิศให้ "น้องชิงดำ" ผ่านไป  ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน ตรงกับวันพระ ด้วยเงินค่ารักษาพยาบาลที่เหลือ จากจำนวนทั้งสิ้น 6,000 บาท เป็นค่าวัสดุสร้างสุสาน, ผ้ากันแดดกันฝน, เสื่อน้ำมันปูกันเปื้อนในศาลาเอนกประสงค์, โดยปกติมีคณะศรัทธาญาติโยมมาจำศีลภาวนาเป็นประจำทุกวันพระ ในวันพระที่ผ่านมา (6 กันยายน) เป็นกรณีพิเศษจึงปฏิบัติธรรมอุทิศให้น้องชิงดำ เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน จนถึงเช้าเมื่อวาน (9 กันยายน 2558) การทำบุญอุทิศจึงสิ้นสุดลง

จากหลวงตา  ถึงน้องแมว

            น้องแมวเอ๋ย ถึงแม้ชาตินี้เจ้าจะเกิดมาอาภัพเป็นสัตว์ ที่มนุษย์ชาวโลกเรียกพวกเจ้าทั้งหลายว่า "สัตว์เดรัจฉาน" ที่อาศัยข้าวก้นบาตรจากหลวงตาเลี้ยงชีพ บางวันอาจจะได้กินข้าว บางวันก็ไม่มีข้าวกิน พวกเราเกิดที่ผืนป่าแห่งนี้และเติบโตมาด้วยกัน แต่เจ้าก็ยังโชคดีที่มีคนใจบุญเห็นค่าชีวิตน้อยฯของเจ้า อยากมีส่วนร่วมช่วยชีวิตของเจ้า ได้โอนเงินค่ารักษาพยาบาลผ่าตัดครั้งนี้จำนวน ห้าพันบาท บุคคลผู้ใจบุญคนนั้นชื่อว่า "สุภาพร (อำไพ)" จำไว้นะลูก